วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2558

วิวัฒนาการการศึกษาไทย

ประวัติศาสตร์สมัยโบราณ

    การศึกษาสมัยนี้มีบ้านและวัดเป็นศูนย์กลาง บ้านเป็นศูนย์กลางในการขัดเกลาจิตใจสมาชิกในบ้าน วัดเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา โดยพระเป็นผู้อบรมสั่งสอนธรรมะ  ผู้ชายนิยมบวชเรียน ส่วนผู้หญิงนิยมเย็บปักถักร้อย

ประวัติศาสตร์สมัยสุโขทัย

     ประวัติศาสตร์สมัยสุโขทัยแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ ผู้ชายเน้นบวชเป็นพระ ซึ่งศึกษาพระไตรปิฏกส่วนผู้หญิงเน้นการเป็นกุลสตรีที่ดี การเป็นแม่บ้านแม่บ้านเพื่อให้ตัวเองเป็นภรรยาที่ดีของสามี
สถานที่ศึกษาในสมัยนี้แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ
1. บ้าน เป็นสถานที่เริ่มต้นของผู้ชายและผู้หญิงทุกคน โดยอบรมบ่มเพาะจากบิดามารดา
2. วัด เป็นสถานที่ที่ศึกษาสำหรับผู้ชายเป็นพระเพื่อศึกษาพระไตรปิฏก จริยธรรม คุณธรรม ส่วนผู้หญิงจะเรียนเกี่ยวกับฝึกความเป็นกุลสตรี การเย็บปักถักร้อย
3. สำนักราชบัณฑิต สำหรับผู้มียศถาบรรดาศักดิ์ ศึกษาวิชาชีพที่สูงขึ้นมา
4. วัง สำหรับเชื้อราชวงศ์ ศึกษาเกี่ยวกับยุทธหัตถี การปกครอง

ประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา

    ประวัติศาสตร์สมัยอยุธยาแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
1. แบบทหาร เรียนเกี่ยวกับการใช้ดาบ ง้าว ศัสตราวุธ ขี่ม้า ขี่ช้างและตำราพิชัยสงคราม เพื่อนำไปปกป้องการรุกรานจากต่างประเทศ
2. แบบพลเรือน พลเรือนชายจะศึกษาพระไตรปิฏก เลข ภาษาและโหราศาสตร์ โดยมีคำพูดที่ว่า ถ้าไม่บวชเรียน จะไม่ได้รับราชการส่วนผู้หญิงเรียนเพื่อออกเรือน เรียนพวกเย็บปักถักร้อย,ทำอาหาร,แกะสลัก เป็นต้น
สมัยอยุธยามีการแต่งหนังสือ "จินดามณี" และตั้งโรงเรียน " มิชชันนารี"

ประวัติศาสตร์สมัยธนบุรี

    ศูนย์กลางการศึกษาอยู่ที่วัด พ่อแม่จะพาลูกไปฝากที่วัด โดยมีพระสงฆ์สอนหนังสือ  หนังสือที่ใช้ในการอบรมสั่งสอนมีหนังสือจินดามณี ด้านอาชีพ ลูกจะประกอบอาชีพจากพ่อแม่ ซึ่งถ่ายทอดแก่ลูก สตรีนิยมไม่ให้เรียนหนังสือ จะให้เรียนพวกเย็บปักถักร้อย พวกงานบ้านงานเรือนมากกว่า
ประวัติศาสตร์สมัยรัตนโกสินทร์
    พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยให้เด็กชายเข้าวัดให้เรียน อ่าน เขียน หลักคำสอนศาสนา โดยชนชั้นขุนนางจะเรียนปรัชญา เครื่องกล เครื่องมือและกลไก ในสมัยนี้ไม่นิยมให้ผู้หญิงเรียนหนังสือ แต่ก็ยังคงมีบางคนสามารถอ่านออกเขียนได้บ้าง
ประวัติศาสตร์สมัยใหม่
    เริ่มมาจากสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นำเอาการศึกษาตะวันตกมาเกี่ยวข้องในประเทศไทย มีการเลิกทาสโดยมีความทัดเทียมในการศึกษาและมีการให้ความสำคัญของการศึกษาจนปัจจุบันมีติวเตอร์เข้ามาแทรกแซงเกี่ยวกับการศึกษาไทยมากขึ้น อาจจะส่งผลถึงปัญหาในภายภาค
หน้าก็เป็นได้

ประวัติการศึกษาไทย

    การศึกษาไทยสมัยก่อน จะอยู่ที่บ้าน วัด หรือวังในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าให้มีการสอนภาษาอังกฤษในพระราชสำนัก  ตอนยุคเกิดการล่าอาณานิคม จากตะวันตก และรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงให้มีความรู้ทางหนังสือ และทรงเปลี่ยนระบบการศึกษาเดิมเป็นแบบตะวันตกและทรงตั้งโรงเรียนหลวง  คือ "โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ" พ.ศ. 2427 โดยจัดการศึกษาให้ทัดเทียมกัน และทรงปรับปรุงเป็นโรงเรียนนายทหารมหาดเล็กและได้ตั้งมหาวิทยาลัยแห่งของประเทศไทยคือ "จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย"
ในปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีมาใช้มาก คือ คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต เป็นการศึกษาที่ทันสมัยอย่างมากในปัจจุบัน
การพัฒนาการศึกษาไทย
"เจ้านายราชตระกูล ตั้งแต่ลูกฉันเป็นต้นลงไป
ตลอดจนถึงราษฎรที่ต่ำที่สุด จะให้ได้มีโอกาสเล่าเรียน
ได้เสมอกัน ไม่ว่าเจ้า ว่าขุนนาง ว่าไพร่
เพราะฉะนั้น จึงขอบอกได้ว่าการเล่าเรียนในบ้านเมืองเรานี้
จะเป็นข้อสำคัญที่หนึ่ง ซึ่งฉันจะอุตส่าห์จัดขึ้นให้เจริญให้จงได้"
พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

ปฏิรูปการศึกษาไทย 1

  การศึกษาไทยเป็นระบบที่ล้มเหลวในการสอนคนอ่าน เขียนได้อย่างแท้จริง
คุณภาพการศึกษาไทยที่พบในโลกจริง
1. เด็กไทยอ่านออกเขียนได้ในระดับที่จำกัด
2. เด็กไทยจำนวนมากไม่มีโอกาสได้เรียนต่อในระดับสูง
3. ท่องจำแต่ไม่เข้าใจ
4. บัณฑิตไม่สามารถทำงานได้ ทำงานไม่เป็น เป็นต้น
อะไรทำให้การศึกษาไทยล้มเหลว
1. รัฐไม่ใส่ใจจัดสรรงบประมาณให้น้อย
2. ครูเงินเดือนน้อย คนเก่งไม่มาเป็นครู
3. เด็กไทยเรียนน้อยเกินไป ไม่ขยัน

การปฏิรูปการศึกษาไทย 2

เป้าหมายการศึกษาที่ดี ความฉลาดทางปัญญา IQ , ความฉลาดทางอารมณ์ EQ ,ความฉลาดทางสังคม SQ คือ สำนึกในสังคมที่มีความร่วมมือ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ผู้ที่ศึกษาในอุดมศึกษายังขาดด้านอารมณ์และสังคม สังคมไทยถูกครอบงำด้านวัตถุนิยมของระบบเศรษฐกิจ ทุนนิยม การศึกษากลายเป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจ ผู้เรียนเป็นแรงงาน โรงเรียนและมหาวิทยาลัยเป็นโรงงานผลิตแรงงาน

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2558

ปรัชญาการศึกษา

ปรัชญาสารัตถนิยม

ปรัชญาสารัตถนิยมนั้นจะเน้นในด้านการเรียนรู้ การสร้างวินัยในตนเอง ครูผู้สอนและผู้เรียน การศึกษามาจากครูมิใช่ผู้เรียน ครูเป็นผู้ให้นักเรียนเป็นผู้รับ หลักสูตรเน้นเนื้อหาวิชาและวิธีสอนให้นักเรียนมุ่งรับรู้และจดจำ

ปรัชญานิรันตรนิยม

ปรัชญานิรันตรนิยม คือการศึกษาถึงเนื้อหาวิชาและแก่นสาระพื้นฐานส่วนสำคัญ  ปรัชญาสารัตถนิยมมาจากพื้นฐาน 2 ปรัชญา ก็คือ ปรัชญาจิตนิยมและปรัชญาสัจนิยม  ส่งเสริมให้รู้จักคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรม เน้นระเบียบวินัยผู้สอนเป็นศูนย์กลาง สร้างผู้เรียนให้มีวินัย

ปรัชญาพิพัฒนาการนิยม

ปรัชญาพิพัฒนาการนิยม เป็นปรัชญาที่เน้นการต่อต้านแต่การศึกษาแบบดั้งเดิมที่มักจะเน้นแต่เนื้อหาท่องจำอย่างเดียว ไม่มีความคิดเป็นของตนเอง

ปรัชญาปฏิรูปนิยม

ปรัชญาปฏิรูปนิยม  คือ การบูรณะหรือการสร้างขึ้นใหม่  ปฏิรูปนิยมจึงมุ่งการปฏิรูปสังคม ขึ้นมาใหม่ เพราะถือว่าสังคมในปัจจุบันมีปัญหา ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และศิลปวัฒนธรรมเป็นเหตุต้องแก้ปัญหาอยู่เรื่อย ๆ จึงต้องหาทางสร้างค่านิยมและแบบแผนของสังคมขึ้นใหม่ เน้นหาค่านิยม สร้างความเสมอภาคและความเป็นธรรมอีกทั้งต้องเตรียมคนสู่สังคมใหม่ พัฒนาสังคมให้ดีขึ้น

ปรัชญาอัตถิภาวนิยม

ปรัชญาอัตถิภาวนิยม  เป็นปรัชญาที่ให้ความสำคัญกับองค์ประกอบที่ทำให้มนุษย์มีความสมบูรณ์ยิ่ง เพราะเชื่อว่ามนุษย์มิใช่วัตถุแต่มีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึก มีความต้องการ และมีความเป็นตัวของตัวเอง

พุทธปรัชญา

พุทธปรัชญา คือ การศึกษาเพื่อให้เข้าใจความจริง เข้าใจความหมายของชีวิต ทั้งดำรงชีวิตให้สอดคล้องสัมพันธ์กับความจริงโดยใช้เหตุและผล พุทธปรัชญามีจุดมุ่งหมายจะต้องมุ่งพัฒนาโลภ  โกรธ หลงให้ลดลง และพัฒนาความรู้ ความจำ นิสัยและอื่นๆในทางที่เหมาะสม เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน